เมื่อพูดถึงมังงะและอนิเมะที่ฮิตระเบิดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดาบพิฆาตอสูร หรือ “Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba” ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้คนทั่วโลกต้องหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่ดึงดูดใจ ตัวละครที่น่ารัก หรือฉากแอ็คชันที่อลังการ แต่เคยสงสัยกันมั้ยว่าใครคือคนเจ้าของผลงานชิ้นเอกนี้กันแน่? โคโยฮารุ โกโตเกะ (Koyoharu Gotouge) คือชื่อของผู้สร้างสรรค์เรื่องราวสุดมหัศจรรย์นี้ แม้ว่าข้อมูลส่วนตัวของเขาจะเป็นความลับและไม่ค่อยเปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบมากนัก แต่ผลงานที่เขาสร้างขึ้นกลับสามารถสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกได้อย่างน่าอัศจรรย์จากมังกะเล่มเล็กๆ ที่เริ่มต้นในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ปี 2016 กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ วัยรุ่น หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ ทุกคนต่างก็ตกหลุมรักเรื่องราวของทันจิโร่และเหล่าเพื่อนนักดาบ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าทำไมผลงานของโกโตเกะถึงได้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก และมีใครบ้างที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้
ความสำเร็จของดาบพิฆาตอสูรไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โกโตเกะสามารถสร้างสรรค์เรื่องราวที่โดนใจคนทุกวัยได้อย่างมีเหตุผล เริ่มต้นจากเนื้อเรื่องที่ง่ายต่อการเข้าใจ แต่มีความลึกซึ้งในเรื่องของครอบครัว มิตรภาพ และการเสียสละ สิ่งเหล่านี้เป็นธีมที่คนญี่ปุ่นและคนทั่วโลกสามารถเชื่อมโยงได้จุดเด่นหลักของมังงะเรื่องนี้คือการออกแบบตัวละครที่แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่ทันจิโร่ที่เป็นพระเอกใจดี ไปจนถึงอสูรตัวร้ายที่แต่ละตัวก็มีเบื้องหลังที่น่าสงสาร โกโตเกะไม่ได้สร้างแค่ตัวละครที่ดูเท่ๆ แต่เขาใส่จิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์เข้าไปในทุกๆ ตัวอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือการใช้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับแฟนตาซีสมัยใหม่ ลมหายใจต่างๆ ที่นักดาบใช้ล้วนมีรากฐานมาจากธรรมชาติและปรัชญาญี่ปุ่น ทำให้ดูสวยงามและมีความหมาย การออกแบบชุดกิโมโนและดาบซามูไรก็ช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สำคัญที่สุดคือจังหวะการเล่าเรื่องที่ไม่ยืดยาดเกินไป โกโตเกะรู้ว่าควรจบเรื่องตอนไหน ทำให้คุณภาพของเรื่องคงที่ตลอด ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อหรือลากยาวเกินจำเป็น
แม้ว่าโกโตเกะจะเป็นต้นกำเนิดของเรื่องราว แต่ความสำเร็จของดาบพิฆาตอสูรในรูปแบบอนิเมะต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานเก่งๆ จากสตูดิโอ Ufotable ที่ทำให้การ์ตูนกระดาษกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวสุดอลังการฮารุโอะ โซโตซากิ ผู้กำกับซีรีส์ ถือเป็นคนสำคัญที่ทำให้อนิเมะดาบพิฆาตอสูรมีคุณภาพระดับเทพ เขามีประสบการณ์ในการทำงานกับสตูดิโอ Ufotable มายาวนาน และเป็นคนที่เข้าใจถึงจุดเด่นของเทคนิค CG และเอฟเฟกต์พิเศษที่สตูดิโอนี้มีชื่อเสียงยูกิ คาจิอุระ นักออกแบบตัวละครที่ทำให้ทุกตัวละครในอนิเมะดูมีเสน่ห์และสวยงามยิ่งขึ้นจากต้นฉบับ การปรับโทนสีและรายละเอียดให้เข้ากับการเคลื่อนไหวถือเป็นศิลปะระดับสูงสิ่งที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้โดดเด่นคือเทคนิคการใช้ CG ผสมผสานกับ 2D อย่างลงตัว ฉากต่อสู้ที่มีเอฟเฟกต์น้ำ ไฟ และลม ดูสมจริงและสวยงามมาก ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ดูหนังคุณภาพสูง โยโกะ คานโน ผู้แต่งเพลงประกอบ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำให้อนิเมะมีความสมบูรณ์ เพลงธีมและเพลงประกอบต่างๆ ช่วยเสริมอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างเยี่ยม โดยเฉพาะเพลง “Gurenge” ที่กลายเป็นเพลงฮิตติดหูไปทั่วเอเชีย
ตัวเลขรายได้ของ ดาบพิฆาตอสูร นั้นแทบจะไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ในปี 2020 เพียงปีเดียว แฟรนไชส์นี้สร้างรายได้รวมกว่า 270,000 ล้านเยน (ประมาณ 65,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าอัศจรรย์มากการขายมังงะเล่มเป็นรายได้หลักที่สำคัญ โดยมียอดขายรวมทั้งหมดเกิน 150 ล้านเล่ม ทั่วโลก ทำให้กลายเป็นหนึ่งในมังงะขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ในแต่ละเล่มขายได้เฉลี่ยเกิน 5 ล้านเล่ม ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าตื่นตาตื่นใจภาพยนตร์ “Demon Slayer: Mugen Train” ที่เข้าฉายในปี 2020 ทำรายได้ทำลายสถิติหนังอนิเมะญี่ปุ่น โดยทำรายได้ในญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียวเกิน 40,000 ล้านเยน และทำรายได้รวมทั่วโลกเกิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐรายได้จากสินค้าลิขสิทธิ์ก็ไม่น้อยหน้าไหน ตั้งแต่ฟิกเกอร์ เสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ ไปจนถึงสวนสนุกธีม ล้วนเป็นที่ต้องการของแฟนๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สิ่งที่น่าสนใจคือรายได้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 3-4 ปี แสดงให้เห็นถึงพลังของแฟรนไชส์ที่สามารถสร้างกระแสได้อย่างรวดเร็วและแรง
โคโยฮารุ โกโตเกะ จากมังงะกะหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก กลายเป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์ผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ผลงานของเขาไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนทั่วโลก แต่ยังสร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่ข้ามขอบเขตของประเทศความสำเร็จของดาบพิฆาตอสูรแสดงให้เห็นว่าเรื่องราวที่ดีไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ต้องมาจากใจและสื่อสารกับผู้อ่านได้ การที่โกโตเกะเลือกจบเรื่องในจุดที่เหมาะสม แทนที่จะลากยาวเพื่อหาเงิน แสดงให้เห็นถึงความเป็นศิลปินที่แท้จริงทีมงานที่เก่งจากสตูดิโอ Ufotable ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลงานชิ้นนี้กลายเป็นมากกว่าแค่มังงะธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์ทางศิลปะที่สมบูรณ์แบบ ตัวเลขรายได้ที่น่าทึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ส่วนที่สำคัญกว่าคือผลกระทบที่ดาบพิฆาตอสูรมีต่อวงการอนิเมะและมังงะ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้สร้างรุ่นใหม่ได้เห็นว่าเรื่องราวที่ดีสามารถเปลี่ยนโลกได้จริงๆ